Last updated: 19 ก.พ. 2567 | 387 จำนวนผู้เข้าชม |
ฝึกลูกนั่ง คลาน ยืน เดิน อย่างไรให้ถูกวิธี และไม่เร่งพัฒนาการ
ท่าทางพื้นฐานอย่างการนั่ง คลาน ยืน และเดิน เป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนต่างรออย่างใจจดใจจ่อว่าลูกจะทำได้เมื่อไร รวมไปถึงอยากฝึกให้ลูกทำได้อย่างมั่นคงแข็งแรงด้วย วันนี้ PAPA BABY รวมทริคดีดีไว้ให้แล้ว
4 เดือน : พลิกคว่ำ
เมื่อลูกน้อยอายุราว 2 เดือน เขาจะเริ่มชันคอเวลานอนคว่ำ และการอุ้มเขาบ่อยๆ ให้อยู่ในท่านั่งก็เป็นการช่วยกระตุ้นให้ลูกชันคอได้ตรงหรือแข็งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพลิกคว่ำพลิกหงายในช่วงเดือนที่ 4 ซึ่งเป็นพัฒนาการก้าวสำคัญ
ทารกที่พลิกคว่ำพลิกหงายได้เอง กล้ามเนื้อหลังและแขนต้องแข็งแรงพอ เมื่อเขาพลิกตัวไปมาได้ เขาจึงจะยันตัวขึ้นนั่งและคลานได้ในขั้นต่อๆ ไป ดังนั้น ถ้าลูกไม่พลิกคว่ำพลิกหงาย เขาก็จะไม่นั่งไม่คลาน!
เรื่องการพลิกตัวเป็นธรรมชาติที่ลูกทำได้เอง คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องช่วยอะไรเป็นพิเศษ แค่จัดเตรียมพื้นที่ที่ปลอดภัยให้ลูกตอนพยายามพลิกหรือกลิ้ง ไม่ปล่อยลูกไว้ตามลำพังบริเวณพื้นที่มีลักษณะโค้งหรือไม่เรียบ และระหว่างเปลี่ยนผ้าอ้อมช่วยจับมือลูกไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะลูกอยากพลิกตัวตอนไหนก็คือตอนนั้น แต่ครั้งแรกที่พลิกคว่ำสำเร็จ ลูกอาจตกใจและร้องไห้ อย่าลืมอุ้มกอดและลูบหลังปลอบขวัญลูกด้วยนะคะ
6 เดือน : เริ่มนั่ง
วัยนี้ลูกเริ่มเรียนรู้ที่จะนั่งได้เองแล้ว แต่ท่านั่งจะยังดูเก้ๆ กังๆ เพราะการนั่งเป็นพัฒนาการใหม่ และลูกยังไม่รู้วิธีนั่งให้ถูกต้องและสบาย ลูกจะยังนั่งได้ไม่นาน สังเกตจากเขาต้องยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อพยุงตัว มาเรียนรู้วิธีช่วยให้ลูกนั่งสบายๆ กันดีกว่าค่ะ
· ช่วยหาที่ยึดเกาะให้ลูก วางหมอนล้อมรอบหรือหาเก้าอี้เสริมสำหรับเด็กแบบมีที่กั้นเพื่อให้ลูกมีที่ยึดเกาะ ช่วยให้เขาได้พยุงตัวเวลานั่ง
· หาหมอนรองนั่งนุ่มสบาย เมื่อย่างเข้าเดือนที่ 6 คุณอาจหาหมอนนุ่มๆ ใบเล็กๆ รองตั้งแต่ต้นคอ หลัง จนถึงโคนขาของเขาเพื่อให้ลูกนั่งพิงอย่างสบายๆ และช่วยประคองเขาให้นั่งอย่างถูกลักษณะอีกด้วย
· บริหารหน้าท้องกัน เพราะจำเป็นมากสำหรับพัฒนาการด้านการนั่งและการพยุงตัว ช่วยลูกได้ด้วยการอุ้มเขายกขึ้น-ลงหรืออุ้มเหาะเหมือนเครื่องบิน การเล่นเหล่านี้จะช่วยให้ลูกได้บริหารกล้ามเนื้อท้อง เตรียมความแข็งแกร่งสำหรับลูกน้อยวัยหัดนั่ง
· เอาของเล่นมาช่วย ให้นำของเล่นหรือสิ่งของที่แกว่งไปมาได้ มาตั้งไว้ที่หน้าเขา แล้วค่อยๆ เคลื่อนของนั้นอย่างช้าๆ จากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง เพื่อกระตุ้นให้ลูกเข้าหาของนั้น โดยปล่อยให้เขาใช้ลำตัวและขาช่วยพยุงร่างกายในขณะเคลื่อนที่ตามสิ่งของนั้น เป็นวิธีช่วยฝึกให้ลูกนั่งได้มั่นคงเร็วขึ้น
6-10 เดือน : เริ่มคลาน
ทารกนั่งตัวตรง โยกตัวไปมา รวมถึงยกลำตัวขึ้นและทะยานไปข้างหน้าด้วยฝ่ามือ เข่า และเท้าได้ แต่เด็กที่ไม่คลาน แต่ข้ามขั้นเป็นยืนและเดินเลยก็มีไม่น้อยค่ะ อย่างไรก็ดี เพื่อช่วยให้ลูกเป็นนักคลานที่คล่องแคล่ว มีคำแนะนำดังนี้
· จัดห้องกันกระแทก ทำห้องที่บุวัสดุกันกระแทก มีกล่องหรือสิ่งกีดขวางจัดไว้ให้ลูกได้คลานขึ้นข้างบน ลอดข้างใต้ และคลานผ่านช่องแคบ
· เปิดเพลงสนุกๆ ลงคลานสี่เท้าเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ ลูกน้อย โยกตัวตามจังหวะคึกคักของเพลง ลูกมีแนวโน้มจะเลียนแบบคุณนะ
8-13 เดือน : ยืน
พออายุย่างเข้า 8 เดือน กล้ามเนื้อขาและเท้าของเด็กเริ่มพัฒนาจนแข็งแรงพอที่เขาจะลุกยืน และกำลังใจจากการที่เขาหมุนตัว นั่ง และคลานได้เองสำเร็จยิ่งเป็นแรงส่งให้ลูกวัยนี้อยากยืนเองได้ แต่การจะทำเช่นนั้นได้ เขาต้องการหลักยึดก่อน นอกจากแข้งขา แม้แต่นิ้วมือของพ่อแม่แล้ว เขาจะมองหาของอื่นเป็นหลักยึดเพื่อดึงตัวเองขึ้น ตั้งแต่ลูกกรงหรือเสาข้างเตียง ที่เท้าแขนของโซฟา ขอบหรือขั้นบันได ฯลฯ ฉะนั้นช่วงนี้พ่อแม่ควรเตรียมการเพื่อให้ลูกซ้อม (เกาะ) ยืนได้อย่างปลอดภัย
เมื่อลูกพัฒนาถึงขั้นหนึ่ง เขาจะยืนได้เองโดยไม่ต้องเกาะอะไรอีก แต่ลูกจะยังไม่รู้วิธีงอเข่าเพื่อลงนั่ง คุณพ่อคุณแม่ควรช่วยระวังให้ลูกด้วย กว่าเขาจะรู้จักงอเข่ากลับลงไปนั่งได้อย่างนุ่มนวลอีกก็อายุใกล้ๆ 10 เดือนหรือเต็มขวบ
เมื่อลูกยืนได้ เขาจะพยายามก้าวขาขณะที่เกาะเฟอร์นิเจอร์ไว้ แรกๆ คุณจะเห็นลูกเดินถัดไปข้างๆ แต่ไม่นานเขาก็รู้จักยกเท้าเพื่อก้าวเดิน เพื่อให้ลูกสัมผัสกับความสนุกแห่งการก้าวเดิน คุณช่วยลูกได้โดย
· เลื่อนเฟอร์นิเจอร์มาชิดกัน เพื่อให้ลูกได้เพลิดเพลินและภูมิใจกับการตระเวนไปรอบๆ ห้องด้วย “ลำแข้ง” ของตัวเอง
· อุ้มลูกยืนบนตัก กระดกเข่าสองข้างสลับไปมา เพื่อให้ลูกฝึกบิดเอวตามจังหวะการเดิน
· จัดห้องให้ปลอดภัย ย้ายของซึ่งมีเหลี่ยมมุมที่แหลมคมออกจากรัศมีการเอื้อมหรือก้าวถึงของลูก ตรวจดูและซ่อมแซมข้าวของเครื่องใช้ที่ลูกอาจใช้เกาะยึด ให้อยู่ในสภาพมั่นคงพอ ไม่หักหรือล้มครืนง่ายเวลาลูกเหนี่ยว ถ้ามีของชิ้นใหญ่ที่มีมุมหรือขอบแหลมและไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกให้พ้นการเอื้อมถึงของเด็กๆ ได้ ควรจัดหาวัสดุหุ้มขอบ เข้ามุมกันกระแทกให้เรียบร้อย
แม้จะระวังแค่ไหน ลูกก็ต้องมีวันล้มจากท่ายืนอยู่ดี แต่ข่าวดีคือ เวลาล้มเด็กมักจะเอาก้น (ที่มีผ้าอ้อมรอง) ลง ทำให้ไม่เกิดเหตุบาดเจ็บร้ายแรงอะไร แต่ถ้าอยากให้มั่นใจจริงๆ หลังจากกำจัดสิ่งกีดขวางแล้ว คุณก็แค่หาเบาะนิ่มมาปูรองไว้ให้เขา จากนั้นก็คอยส่งยิ้มให้กำลังใจลูกเป็นระยะๆ ก็พอแล้ว
· ไม่ให้ลูกเกาะรถหัดเดิน เพราะล้อเลื่อนอาจจะพาให้เขาลื่นหกล้มได้ แถมการใช้รถหัดเดินแทนที่จะให้ลูกเกาะยืนหรือเดินด้วยตัวเองยังไม่เอื้อต่อ การให้เขาได้ฝึกใช้กล้ามเนื้อขาในการหัดเดินอีกด้วย
9-15 เดือน : เดิน
ช่วงนี้ลูกมั่นใจมากขึ้นที่จะปล่อยมือจากโซฟาและเริ่มก้าวแรกอย่างจริงจัง แต่กว่าลูกจะเรียนรู้การประคองตัวและยืนได้ อาจเป็นช่วงที่ใช้เวลามากที่สุด วัยนี้ลูกมีหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ดังนั้นหากเขาจะเริ่มก้าวเดินช้าไปหน่อย คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องเป็นกังวล คอยดูพัฒนาการของเขาอยู่ห่างๆ และคอยให้ความช่วยเหลือเมื่อเขาต้องการดีกว่าค่ะ ลูกจะเดินได้มั่นคงสมบูรณ์ ประมาณ 1 ขวบ 4 เดือน หรือมากกว่านั้น ลูกเดินเร็วหรือเดินช้า ไม่ได้บอกว่าสมรรถภาพทางร่างกายของเขาปกติหรือไม่ปกติ เมื่อลูกเริ่มเดิน แรกๆ ลูกอาจยังเก้ๆ กังๆ เราช่วยเสริมความมั่นใจให้ลูกได้โดย
· ค่อยเป็นค่อยไป
พ่อแม่ไม่ควรกดดันหรือเร่งรัดลูกมากนัก ระหว่างรอให้ลูกเริ่มเดินเอง ควรสำรวจและจัดห้องของลูกให้เหมาะสม เพื่อให้ปลอดภัยไร้กังวลเมื่อลูกเริ่มหัดเดิน
· ให้เดินเท้าเปล่า
เพราะช่วยให้ลูกทรงตัวง่ายกว่า หากไปนอกบ้าน ให้ลูกได้เดินเท้าเปล่าบนพื้นปูน พื้นดิน ทราย หรือพื้นหญ้า ที่คุณสำรวจแล้วว่าปลอดภัย เพื่อบริหารกล้ามเนื้อขาและเท้า การได้สัมผัสพื้นผิวที่แตกต่างจากที่คุ้นเคยจะช่วยกระตุ้นให้ลูกอยากเดินมากขึ้น เมื่อให้ลูกใส่รองเท้าเดินนอกบ้าน ให้สังเกตรองเท้าของลูกไม่ให้คับหรือหลวมเกินไป เพราะรองเท้าที่ไม่เหมาะกับเท้าเป็นเหตุขัดขวางการเดินของลูกได้
· ล่อใจด้วยของเล่น
ถือของเล่นห่างจากลูกสัก 2 – 3 ฟุต การมีเป้าหมายล่อใจช่วยกระตุ้นให้เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
· ข้อควรระวังและสัญญาณบอกเหตุ
หากลูกมีอาการอ่อนล้ามากผิดปกติ หรือกล้ามเนื้อขาไม่มีกำลัง และไม่อาจยืนขึ้นได้เอง ต้องยึดคุณไว้ตลอด แนะนำว่าควรปรึกษากุมารแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงเพื่อหาทางแก้ไขอย่างทันท่วงทีต่อไป
ไอเทมนี้ เสริมพัฒนาการได้ ใช้แล้วดียังไง มาดูกัน
สินค้าหมวก และเป้กันกระแทกจาก PAPA BABY แนะนำเลย ไอเทมนี้ต้องมีช่วยคุณแม่คุณพ่อฝึกพัฒนาการลูกน้อยได้อย่างปลอดภัย สบายใจหายห่วงได้เลย
10 พ.ค. 2567
25 มี.ค. 2567
23 พ.ค. 2567